23 กันยายน 2568
กรมชลประทาน Royal Irrigation Department
หากยังไม่ได้เป็นสมาชิก เข้าสู่ระบบได้ที่นี่
หรือเข้าสู่ระบบผ่าน
หากยังไม่ได้เป็นสมาชิก ลงทะเบียนได้ที่นี่
หรือเข้าสู่ระบบผ่าน
ปิดหน้าต่าง
ปิดหน้าต่าง
มีอีเมล์นี้ในระบบแล้ว
กรุณาตรวจสอบข้อมูลและลองใหม่อีกครั้ง
ปิดหน้าต่าง
กรุณายืนยันอีเมลของท่าน เพื่อให้การสมัครสมาชิกเสร็จสมบูรณ์
ปิดหน้าต่าง
กรุณาตรวจสอบข้อมูลและลองใหม่อีกครั้ง
ปิดหน้าต่าง
ระบบได้ดำเนินการส่งรหัสผ่านของคุณ
เรียบร้อยแล้ว
ปิดหน้าต่าง
กรุณาตรวจสอบข้อมูลและลองใหม่อีกครั้ง
ปิดหน้าต่าง
ระบบได้ดำเนินการเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ
เรียบร้อยแล้ว
ปิดหน้าต่าง
วันนี้ (21 กันยายน 2568) ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ในช่วงวันที่ 21 - 27 กันยายนนี้ ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังฝนตกหนัก - สะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานการติดตามพายุไต้ฝุ่น “รากาซา (RAGASA)” ที่ก่อตัวอยู่บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ขณะนี้พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ก่อนจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ อิทธิพลของพายุลูกนี้จะทำให้มรสุมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะ จึงควรติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
สำหรับพื้นที่ทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งทำหน้าที่เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำจากลุ่มน้ำยม ช่วยบรรเทาน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ปัจจุบันสามารถกักเก็บน้ำได้แล้ว 397 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 99 ของความจุ (400 ล้าน ลบ.ม.)
ด้านสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 59,804 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของความจุอ่างฯ รวมทั้งหมด ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 16,700 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,548 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯ และยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,300 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve: URC) กรมชลประทานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ติดตามและบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก, เขื่อนแม่มอก จังหวัดลำปาง, เขื่อนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี, เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร, เขื่อนน้ำพุง จังหวัดสกลนคร, เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ, เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น, เขื่อนบางพระ จังหวัดชลบุรี และเขื่อนนฤบดินทรจินดา จังหวัดปราจีนบุรี
กรมชลประทานได้ติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและน้ำท่า มีการนำน้ำเข้าสู่คลองชลประทานเต็มศักยภาพ ควบคู่กับการสูบน้ำเร่งระบายน้ำส่วนเกินลงสู่อ่าวไทย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณสำหรับการแจ้งเตือนข้อผิดพลาด
ทางหน่วยงานจะรีบทำการปรับปรุงเพื่อการให้บริการที่ดีขึ้น
กรุณาลองส่งอีกครั้งหรือสักพัก เพื่อทำการส่งใหม่
ทางหน่วยงานขออภัยในความไม่สะดวก
ปิดหน้าต่าง
ระบบได้ดำเนินการยกเลิกรับข่าวสารสำเร็จ
ปิดหน้าต่าง
กรุณาตรวจสอบข้อมูลและลองใหม่อีกครั้ง
ปิดหน้าต่าง