โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี เตรียมใช้งบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ปรับปรุงระบบชลประทานในพื้นที่อย่างครอบคลุม เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำที่เกิดขึ้นซ้ำซาก

       เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้จัดประชุมชี้แจงโครงการปรับปรุงระบบให้กับสื่อมวลชน ตัวแทนภาครัฐ และกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบุรี, บ้านลาด, บ้านแหลม และท่ายาง โดยมีนายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผอ.โครงการชลประทานเพชรบุรี และนายสุชาติ กาญจนวิลัย ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี เป็นผู้ให้ข้อมูล

       โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากสภาพปัญหาของ เขื่อนเพชร ซึ่งใช้งานมานานถึง 74 ปี ทำให้ระบบชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถรองรับความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งพื้นที่ท้ายน้ำยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำในฤดูน้ำหลาก

        สำหรับแผนการปรับปรุงโครงการจะใช้งบประมาณ 3,459 ล้านบาท ภายใต้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ซึ่งประกอบด้วยแผนงานหลัก ได้แก่ การซ่อมแซมและก่อสร้างโครงสร้างชลประทานใหม่ โดยซ่อมแซมคลองส่งน้ำเดิม 33 คลอง, ปรับปรุงอาคารและท่อลอด รวมถึงซ่อมแซมสะพาน มีการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ โดยเพิ่มระดับกักเก็บน้ำเขื่อนเพชร, ก่อสร้างฝายพับได้ในแม่น้ำเพชรบุรี 4 แห่ง และฝายในคลองระบายน้ำอีก 24 แห่ง มีการพัฒนาเทคโนโลยีโดยปรับปรุงระบบเตือนภัย, ระบบโทรมาตร และระบบควบคุมประตูน้ำระยะไกล และมีการส่งเสริมองค์กรผู้ใช้น้ำ ด้วยการจัดอบรมและให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำและการเกษตรสมัยใหม่

        นายสมสวัสดิ์ฯ กล่าวอีกว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ 11.73 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นในฤดูแล้งจากเดิม 100,000 ไร่ เป็น 133,421 ไร่ อีกทั้งยังช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมลงได้ถึง 59,478 ไร่ หรือลดลงร้อยละ 37.5 ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

        ซึ่งกรมชลประทานจะจัดประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการทั้งหมดอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น